เมนู

กุมภวรรค ที่ 7


สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลราชมีพระราชโองการประภาษถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ปรีชาเฉลิมปราชญ์ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่าองค์อัน 1 แห่งหม้อนั้นประการใด
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ผู้มีศักดิ์เป็น
อัครกษัตริย์อันประเสริฐ กุมฺโก นาม ชื่อว่าหม้อถ้าใส่น้ำเปี่ยมปากแล้ว น สทฺทยติ ถึงคนจะ
เคาะก็มิได้กระทำเสียงกึกก้อง ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้าเมื่อมีพระบารมีในพระ
ไตรปิฎกและพระโลกุตรธรรมสำเร็จแล้ว จะได้ประกาศอ้างอวดอึงไปหามิได้ จะได้เป็นแก่ลาภ
สักการะอันเกิดแต่พระไตรปิฎกและพระโลกุตรธรรมนั้นก็หามิได้ จะได้มีมานะถือว่า อาตมารู้ก็
หามิได้ กำจัดเสียซึ่งมานะและความกระด้างให้สิ้นจากสันดาน มีจิตเป็นอุลุภูตะ มิได้อวดอ้าง
ตนอื้ออึงไป ดุจหม้ออันเปี่ยมไปด้วยน้ำอันมิได้กระทำเสียงฉันนั้น นี่แหละเป็นองค์อัน 1 แห่ง
หม้อ ยุติด้วยพระพุทธฎีกา ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธสัพพัญญูบรมครูเจ้าตรัสไว้ว่า
ยทูนํ ตํ สทฺทยติ ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ
อฑฺฌกุมฺโภปโม พาโล รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต

มีความว่า หม้อใบใดบกพร่องมิได้ใส่น้ำให้เต็ม หม้อใบนั้นแลมีเสียงมี่ก้องนัก หม้อใด
ใส่น้ำไว้เต็ม หม้อใบนั้นย่อมเงียบเสียงสงบอยู่ คนอันธพาลท่านกล่าวไว้ว่าดุจหม้ออันมีน้ำได้ครึ่งหนึ่ง
ย่อมจะมีเสียงสนั่นลั่นไป ส่วนว่านักปราชญ์นั้นไซร้ ดุจหม้อน้ำอันเต็ม จะได้อวดอ้างคุยโอ้หามิ
ได้ดังนี้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ
นาคเสนผู้ประเสริฐ อันว่าองค์ 2 แห่งกาลักน้ำนั้นประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ กาฬายโส
นาม ชื่ออันว่ากาลักน้ำนั้น สุปิโต ย่อมดูดอุทกังขึ้นมา ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้าก็
พึงดูดดื่มซึ่งฉันทอัธยาศัย นำไปด้วยโยนิโสมนสิการ ดุจกาลักน้ำ ฉันนั้น นี่แหละเป็นองค์แห่ง
กาลักน้ำเป็นปฐม
ปุน จ ปรํ อีกประการหนึ่งเล่า มหาราช ขอถวายพระพร กาฬายโส ธรรมดาว่กาลักน้ำ
นั้น บุคคลดูดเข้าทีเดียวแล้วก็ดูดน้ำนั้นมากไป จะได้คายน้ำเสียหามิได้ ยถา มีครุวนาฉันใด
พระโยคาวจรเจ้ายิ่งประสาทศรัทธาเลื่อมใสว่า อุฬาโร พุทฺโธ คุณแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้า
อุฬารเลิศยิ่ง สฺวากฺขาโต ธมฺโม อันหนึ่งคุณแห่งพระธรรมนั้น สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าตรัส